0

"อินฟานติโน่" ไม่มีอะไรเป็นไม่ได้! ในยุคฟีฟ่า

        

 
 

การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ทุกๆ 2 ปี กลายเป็นที่โจษจันกันไปทั่วโลกในเรื่องของฟุตบอล
ที่จะทำการแข่งขันกันในรูปแบบใหม่จนสุดท้ายมีเสียงแตกออกเป็นสองฝั่งทั้งเห็นด้วยและไม่เห็น
ซึ่งเหตุผลทางฝั่งที่เห็นด้วยมองไปที่การพัฒนาการสร้างโอกาสให้กับ
นักเตะมีโอกาสลงเล่นมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นการสะท้อนการทำงานของแต่ละสมาพันธ์ฟุตบอลฯว่า
เมื่อรับเงินสนับสนุนฟีฟ่าไปแล้วพัฒนาระบบโครงสร้างผู้เล่นได้ดีแค่ไหน ขณะเดียวกันฝากฝั่งที่ไม่เห็นด้วยมองว่า
โดยปกติโปรแกรมการแข่งขันในแต่ละปีมีจำนวนมากอยู่แล้วจะทำให้นักกีฬาและฟุตบอลโลกลดคุณภาพลง

 

นั่นอาจจะเป็นมุมมองของทั้งสองฝั่ง แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าความคิดเห็นคือเรื่องของการทำงานในยุคของ จานนี่ อินฟานติโน่
ประธานฟีฟ่า ชาวสวิตเซอร์แลนด์-อิตาลี คนปัจจุบันที่ทำงานเป็นสมัยที่สอง พร้อมทีมงานด้านเทคนิคที่
ตั้งทีมขึ้นมาทำงานในยุคที่บริหารจัดการนั้น มีหลายสิ่งในเรื่องของโลกฟุตบอลที่ประธานฟีฟ่ารายนี้
เดินหน้าจัดการเปลี่ยนแปลงสร้างมิติใหม่ๆให้กับวงการฟุตบอล และเชื่อว่าโปรเจคต์ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2 ปี
จัดหนึ่งครั้งคงไม่ใช่แค่เรื่องโยนหินถามทาง เพราะเมื่อย้อนไปดูการทำงานที่ผ่านมาเวลาที่
จานนี่ อินฟานติโน่ เอ่ยอะไรมาทุกอย่างมักดำเนินการ


 

การเปลี่ยนแปลงฟุตบอลยุค จานนี่ อินฟานติโน่

- ผลักดันนำ VAR เครื่องมือช่วยตัดสินมาช่วยตัดสินในรายการสำคัญต่างๆ
 

- เพิ่มทีมรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก จาก 32 ทีม เป็น 48 ทีม ในปี 2026


- ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย มีเจ้าภาพร่วม 3 ชาติ
(ปี 2026 สหรัฐฯแคนาดา,เม็กซิโก) เป็นครั้งแรก


- เพิ่มทีมรอบสุดท้ายฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก จาก 24 ทีม เป็น 32 ทีม
ในปี 2023


- ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกรอบสุดท้าย มีเจ้าภาพร่วม 2 ชาติ
(ปี 2023 ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์) เป็นครั้งแรก