"อังกฤษ"ชวด อิตาลี คว้าแชมป์ยูโร
|
|
การได้ประตูตั้งแต่นาทีที่ 2 ของ อังกฤษ กลายเป็นผลเสียเพราะมันนำมาสู่จุดที่ว่าทั้งตัวผู้จัดการและลูกทีมพยายาม ปกป้องประตูตลอดทั้งเกม
อังกฤษ ยิงเข้ากรอบหนเดียวก็คือลูกที่นำ 1-0 นั่นหมายความ 118 นาทีที่เหลือไม่เอาอะไรเลย เน้นรับห่วงหลังบ้าน เหลือตัวรุก 3 ตัว
|
|
ถ้าถามว่าระบบหลัง 3 ที่ เซาธ์เกท เลือกใช้ในวันนี้มันเวิร์คไหม ก็ต้องบอกว่าเวิร์คเพราะเอาเกมรุก อิตาลี อยู่หมัด จากการ format หน้า 3
และมีแบ็คคอยเติมมาช่วยนั่นหมายความว่าจะมีตัวรุกถึง 5 ลำพังระบบเดิมหลัง 4 ตัวยังไงก็ไม่ปลอดภัย |
พอมีหลัง 3 ทีนี้ อิตาลี ใบ้กินเพราะไม่ใช่แค่ด่านแรกต้องเอาชนะวิงแบ็คเท่านั้น (ที่มีหลังฝั่งขวาคอยซ้อนอีกที) แต่มิดฟิลด์จะเข้ามานัวเนียก่อน (อยู่ที่ว่าอยู่ฝั่งใคร)แต่ประตูตีเสมอจากลูกเตะมุมของ
โบนุชชี่ ในนาที 67 มันไม่อยู่ในแผนที่วางไว้ นักเตะหลายๆคนพอเห็นสิ่งที่ตัวเองปกป้องมาตลอดโดนขโมยไปก็เริ่มขาดสติ การยืนตำแหน่งที่เคยรัดกุมก็หลวมทันที เข้าบอลใช้แรงมากกว่าสมองจนพรวดพราดกันเละเทะ |
|
อังกฤษ ยังต้องรอคอยแชมป์รายการใหญ่ต่อไป เพราะพ่ายช่วงดวลจุดโทษให้ "อัซซูรี่" อิตาลี 3-2 หลังเสมอในเวลา 90 นาทีกัน 1-1
ส่งแชมป์ยูโรสมัยสองให้ทัพ "อัซซูรี่" ในรอบ 53 ปี นับตั้งแต่หนล่าสุดเมื่อปี 1968
ในการแข่งขันศึกฟุตบอลยูโร 2020 นัดชิงชนะเลิศ คืนวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา |