สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยอมรับสิงคโปร์เหมาะสมเป็นเจ้าภาพซูซูกิ คัพ 2020
|
|
ส.ลูกหนังไทย ยอมรับสิงคโปร์เหมาะสมเป็นเจ้าภาพซูซูกิ คัพ 2020 เหตุผู้ติดเชื้อแต่ละวันน้อย
การบริหารจัดการเรื่องของวัคซีนดี และเตรียมจะเปิดประเทศแล้ว มองข้อดีทัพ "ช้างศึก"
ได้เปรียบชาติอื่น เพราะลีกไม่ได้หยุดแข่งเหมือนชาติอื่น ชี้ไทยลีกเตะจบ 28 พ.ย. รวมตัวแคมป์ทีมชาติ 29 พ.ย.
ก่อนบินไปแข่งต่อซูซูกิ คัพ เลย นักเตะมีแมตช์ฟิตต่อเนื่อง แถมบางคนอาจกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มพีคสุด ๆ ด้วย
ภายหลังจากที่สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน หรือ (เอเอฟเอฟ) ได้มีมติเลือกให้ประเทศสิงคโปร์
รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในศึกฟุตบอลถ้วยใหญ่ของภูมิภาคอาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020"
ช่วงระหว่างวันที่ 5 ธ.ค.64 - 1 ม.ค.65 ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม จนถึงรอบชิงชนะเลิศ
และจะใช้ 3 สังเวียนในการฟาดแข้งประกอบด้วยสนามกีฬาแห่งชาติ หรือ "สิงคโปร์ เนชันแนล สเตเดี้ยม",
สนามกีฬาจาลันเบซาร์ และสนามกีฬาบิชาน สเตเดี้ยม
ล่าสุด "บิ๊กโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ต ถึงเรื่องดังกล่าวว่า "จากการที่ได้ประชุม 2 วัน
ก็เป็นการประชุมกับคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ซึ่งมีประเทศที่เข้ารอบ ไทย กับ สิงคโปร์
ได้มีโอกาสนำเสนอแผนงานต่าง ๆ กับทางคณะกรรมการ ซึ่งผลการพิจารณาโดยการบริหารงานของเอเอฟเอฟ"
"ที่สำคัญ 12 ประเทศในตอนนี้ เกณฑ์ที่เอเอฟเอฟเลือก ก็จะมีในเรื่องของบริษัทสปอนเซอร์ต่าง ๆ
กิจกรรมต่าง ๆ เขามองไปถึงความปลอดภัยเป็นหัวข้อใหญ่ในสถานการณ์ตอนนี้
ต้องยอมรับว่าการจัดการโควิดในแต่ละประเทศแตกต่างกัน ซึ่งถ้าเราติดตามข่าว สิงคโปร์นั้นมีการบริหารจัดการเรื่องของวัคซีน
การที่เตรียมจะเปิดประเทศ แล้วก็จำนวนเคสของผู้ติดเชื้อแต่ละวันที่ค่อนข้างจะน้อย ทำให้เขามองจุดนี้เป็นตัวเรื่องใหญ่ด้วย"
พ่อบ้าน ส.ลูกหนังไทย ยังพูดถึงความได้เปรียบเสียเปรียบในการที่ทีมชาติไทย
จะต้องไปเล่นที่ประเทศสิงคโปร์ตลอดทั้งรายการด้วยว่า
"จริง ๆ ก็ไม่ต่างกันครับว่าจะเล่นในบ้าน หรือเล่นที่ประเทศไหน เมื่อไทยลีกจบประมาณวันที่ 28 พ.ย.64 ก็ต้องเรียกตัวเข้าแคมป์
และก็จะต้องเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะต้องเดินทางให้เร็วที่สุดในการไปเตรียมทีม"
"ข้อดีของเราต่างจากในลีกของอาเซียนคือ บางลีกนั้นหยุดไป บางลีกไม่ได้มีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง
ส่วนนักฟุตบอลของไทยอยู่ในช่วงที่เริ่มมีความฟิตด้วยฤดูกาลผ่านมาครึ่งฤดูกาล ผมเชื่อว่าฟอร์มต่าง ๆ
มันเริ่มปรับขึ้นมาในจุด ๆ หนึงที่ใกล้จะพีค หรือบางคนก็ฟอร์มพีคแล้ว ซึ่งพละกำลังต่าง ๆ ยังโอเคอยู่
และได้มีแมตช์แข่งอย่างต่อเนื่อง ก็ต่างจากหลากหลายลีกในชาติอื่นที่หยุดไป หรือบางลีกก็ยกเลิกเลย
แม้บางชาติจะอยู่ในการเก็บตัวก็จริง แต่ไม่ได้ต่อเนื่องอย่างไทยลีกในตอนนี้"
สำหรับทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ "มาโน่ โพลกิ้ง" ที่อยู่ในกลุ่ม เอ
มีโปรแกรมลงเตะประกอบด้วย วันที่ 5 ธ.ค.64 พบ ผู้ชนะจากรอบคัดเลือก (บรูไน หรือ ติมอร์ เลสเต)
,วันที่ 11 ธ.ค.64 พบ เมียนมา, วันที่ 14 ธ.ค.64 พบ ฟิลิปปินส์ และวันที่ 18 ธ.ค.64 พบ เจ้าภาพสิงคโปร์
|